.
ผมสัมผัสได้ถึงความสุขมากมายจากตัวอักษรเปี่ยมฝันเหล่านี้ แอบดีใจเสียด้วยซ้ำที่ทั้งเขาและเธอเลือกที่จะมาเคาะประตูบ้านทักทาย นึกถึงตัวเองเมื่อแรกรู้จักวิถีเกษตร ประกายแรกถูกจุดขึ้นตอนทำงานพัฒนาบนดอยสูง ‘สล่าอาจา’ ครูคนแรกกับที่ทำกินขนาดพอเหมาะพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่แค่ตามองทั่วตีนเดินถึง แต่สามารถเลี้ยงตัวและครอบครัวได้อย่างมีความสุข
ชีวิตที่ดำรงอยู่อย่างสุขสงบเช่นนี้ เกิดจากการรู้จักตัวเอง รู้ความต้องการที่แท้ของตนบนฐานของความจำเป็น, ไม่ใช่ความอยาก นั่นคือสิ่งที่ผมเรียนรู้และนำมาปรับใช้กับชีวิต
เกษตรกรรมไม่ใช่อาชีพครับ, แต่เป็นวิถีชีวิต วิถีที่เป็นส่วนหนึ่งของสมดุลแห่งโลกที่คอยถ่วงความโลภโมโทสันไม่ให้โน้มหนักจนเกินไป โดยพื้นฐานแล้วเกษตรกรรมคือการให้ เป็นการเอื้อเฟื้อแบ่งปัน เพราะเกษตรกรรมสรรค์สร้างปัจจัยพื้นฐานในการดำรงอยู่ของชีวิต การทำการเกษตรที่แท้จริง-ที่อิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติจะช่วยให้เราไม่วิตกกังวลเรื่องการกินการอยู่ เราจึงมีเวลาเหลือเฟือที่จะคิดและทำสิ่งดีดีให้กับตัวเอง ครอบครัว ชุมชน ไปจนถึงประเทศชาติ
ไม่ว่าคุณจะยืนอยู่ตรงจุดไหน เพียงมองข้ามมูลค่าเราก็จะเห็นคุณค่า ไม่จำเป็นหรอกครับที่ต้องปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ เพียงปลูกความรักและปรารถนาดีต่อกัน ทนุถนอมจนเติบใหญ่ให้ประโยชน์ เราก็จะได้รับเกียรติให้เป็นเกษตรกรกันโดยถ้วนหน้า
ทั้งหมดนี้เป็นเนื้อแท้ของความรู้สึกและความเข้าใจที่ผมมีต่อคำว่า “เกษตรกรรม”
รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อความคาดหวังที่ว่า “อยากให้คนไทยรักที่จะเป็นเกษตรกรกันมาก ๆ” (จาก about) ปรากฏเป็นจริง ขออนุญาตนำเอาความฝันอันสวยงามเหล่านี้มาชโลมบล็อกให้ชุ่มฉ่ำ เหมือนสายฝนที่โปรยปรายลงมาจูบดินอย่างดูดดื่มและเนิ่นนานเช่นเมื่อคืนวานที่ผ่านมา…
อ้อ! เกือบลืม…ถึงแม้จะเกิดการเรียนรู้และเข้าใจแล้วก็ตาม แต่ใช่ว่าจะคิดทำได้ทั้งหมด เพราะเงื่อนไขของแต่ละชีวิตย่อมไม่เหมือนกัน อย่ายึดติดหรือขึงตึงกับมันนะครับ
.
.
เชกูวารา
2007/05/03 at 6:38 pm
สวัสดีครับ พบบล็อกนี้เข้าโดยบังเอิญ ขออนุญาตติดตามเป็นแฟนประจำ เพราะหาเรื่องราวทำนองนี้และอ่านเข้าใจง่าย สบายใจ รื่นสลวยแบบนี้ได้ไม่ง่ายนัก
เรื่องของเรื่อง ผมกับคนที่คาดว่าจะเป็นเพื่อนคู่คิดในบั้นปลายวางเป้าหมายกันว่า สักวันหนึ่งหลังจากชดใช้หนี้ชีวิตเรียบร้อย และปฏิบัติภารกิจเพื่อตอบแทนให้ประเทศได้ตามควรแล้ว ก็จะผันตัวเองไปเป็นเกษตรกร และหวังใจด้วยว่าจะยังไม่แก่ไปซะก่อน เพราะไม่งั้นเรี่ยวแรงคงถดถอย
อย่างไรก็ตาม ผมตั้งใจกันอย่างแน่วแน่ว่าจะเลือกแนว “ทำมาหากิน” และ อิงแอบแนบเนื้อกับธรรมชาติให้มากที่สุด เพราะยังมีความเชื่ออีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพิสูจน์ และจะลองทำอย่างสุดความสามารถในช่วงสุดท้ายของชีวิต (ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ เป็นความมุ่งหมายเท่านั้น ทำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ )
ตอนนี้เลยเริ่มศึกษาหาความรู้ด้านนี้ไปพลางก่อน และดูแล้วว่าจะได้คำตอบหลายเรื่องจากบล็อกนี้ครับ
ด้วยมิตรภาพ
จาก ทางเลือกของเกษตรกร
.
.
=y=
2007/06/17 at 9:46 pm
กำลังนั่งอ่าน Blog นี้เป็นรอบที่สอง เพราะผมก็กำลังจะทำสวนในสไตล์แบบนี้เหมือนกันครับ ช่วงนี้กำลังปรับแนวคิดของคนที่บ้านและหาข้อมูลเสริม (แถวบ้านผมชอบใช้ยาฆ่าหญ้ากันมากๆ)
ป.ล. กำลังนั่งดูคอนเสริต Rock for the Greatest King ที่ทางช่อง 11 เอามาฉายใหม่แล้วรู้สึก “อิน” ไปกับบทเพลงครับ นานๆจะได้เห็นศิลปินที่ผมชอบออกมาเล่นให้ดู ผมยังจำได้ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เคยนั่งรถไปหาเพื่อนที่ราม แล้วให้เพื่อนพาไปเที่ยว Rock Pub แล้วก็เจอ Olarn นั่งเมาอยู่หน้าผับ ….
จาก อย่าเปลือยดิน
.
.
yimplex
2007/10/02 at 12:58 am
สวัสดีครับ ผมเองกำลังจะออกไปเป็นชาวสวนเหมือนกันครับ
ปกติตอนอยู่บ้านนอก ผมชอบเก็บผักข้างทางกิน อร่อยดี
ไม่ต้องไปซื้อหา ตอนนี้เก็บเงินมาได้จำนวนหนึ่งแล้ว กำลังจะไปซื้อ
ที่ดินที่ อ.ขลุง จันทบุรี ชอบเว็บของคุณมาก จะเข้ามาบ่อยๆนะครับ
จาก ข้าวแดงแดง แกงร้อนร้อน
.
.
แหม่ม
2007/10/12 at 12:26 pm
ขอบคุณมากค่ะ ตอบได้เร็ว ทันใจดีจัง ชาวสวนทำงานเร็วกว่าชาวเมืองซะอีก ชาวเมืองเขียนไป มันตอบมาเดือนหน้า
อยากบอกข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อย เผื่ออาจมีประโยชน์ช่วยเหลือในการตอบ คือว่ามีที่ดินอยู่ 15 ไร่เป็นของพ่อ ซึ่งก็คงคุยกันได้ไม่ยากในการครอบครอง อยู่ที่จังหวัดนครนายกค่ะ
พ่อชวนไปดูมันหลายครั้งหลายครา แต่ปฎิบัติเสธความหวังดีมาตลอด จนตอนนี้อยากไปดูมันมากว่าหน้าตาเป็นยังไง รู้แต่ว่ามันปลูกหน่อไม้อยู่แค่นั้นค่ะ เป็นที่ของพ่อเอง ซึ่งพ่อก็เคยอยู่ที่นั่น รู้จักคนแถวนั้นพอสมควร มีญาติอยู่บ้าง แต่ดิฉันไม่รู้เท่าไหร่ คงต้องเริ่มไปรู้จักเร็วๆ นี้
ที่ดินมีแล้ว เงินก็พอมีบ้างเล็กน้อย แต่แรงงานนี่ไม่แน่ใจ เพราะไม่เคย แต่อยากลองดูเหมือนกัน
อยากทำกินและเหลือเผื่อขาย แล้วยังไงจะเข้าไปอ่านเรื่องทางเลือกของเกษตรกรนะคะ
ขอบคุณมากมากค่ะ สำหรับข้อมูล
แหม่ม
จาก บ้านสวนตอบคุณแหม่ม
.
.
k.kai
2008/11/27 at 11:54 pm
บ้านสวนสวยมากค่ะ อยากเปลี่ยนมาใช้ชีวิตแบบนี้มานานแล้ว
แต่ด้วยกำลัง ความเห็นที่ขัดแย้งและความกลัวของตัวเอง
ก็เลยต้องเก็บความฝันนี้ไว้
เมื่อไรที่เรียนหนัก ทำงานหนักก็มักคลายเครียดด้วยความฝันและความหวัง
บางทีอยากจะหนีไปที่ที่ไม่มีใครรู้จักและไปเริ่มต้นด้วยการเป็นเกษตรกรที่มีมือเปล่าไม่มีทั้งเงินและใบปริญญา
แต่ด้วยความห่วง ห่วงคนในครอบครัวคงจะผิดหวังน่าดู
ก็คงต้องรอวันที่พร้อมมากกว่านี้วันนั้นคงอีกไม่นาน
ขอบคุณนะคะที่เอารูปสวนสวยๆมาให้ดู
เป็นต้นแบบได้ดีทีเดียวและขอบคุณอีกครั้งที่ให้ได้ระบาย
จาก About
.
.
aura
2009/07/15 at 2:09 am
เพิ่งจะเปิดเจอเป็นครั้งแรกเพราะต้องการหาข้อมูลผักหวานป่า กำลังจะไปเริ่มต้นชีวิตชาวสวนเหมือนกัน โดยเริ่มจากศูนย์ จริง ๆ ตอนนี้กำลังต้องการกำลังใจมาก ๆ เนื่องจากมีความกลัวเข้ามาเกะกะในความรู้สึก ต้องขอบคุณสำหรับสิ่งดี ๆ ที่มีให้กับทุกคน นั่งอ่านตั้งแต่เมื่อวานเช้าจนเข้าสู่วันใหม่ สวนสวยมากเลยค่ะ ไว้จะมารบกวนอีก คงจะต้องขอคำปรึกษาจากคุณด้วย ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ…
จาก Change
.
.
lek.tanbet
2009/12/12 at 2:40 pm
เพิ่งจะเข้ามาที่นี่ค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกดีมาก อยากร่วมแบ่งปัน
เล็กทำงานรับราชการ อยู่ใน อบต.ขนาดกลางแห่งหนึ่งในบ้านเกิด พ่อแม่พี่น้อง เครือญาติ รับราชการมากกว่าครึ่ง ไม่ร่ำรวยและไม่เคยหรูเลิศอย่างลูกคุณหนู แต่ไม่ยากลำบาก ปานกลางมาก ๆ เคยไปเรียน ไปทำงานในเมืองหลวงมา 8 ปี ได้ประสบการณ์ดี ๆ มามากมายโดยเฉพาะเรื่องความอดทน นำกลับมาใช้ที่บ้าน พ่อตายก็ได้มรดกที่นามา 1 ไร่ เมื่อปี 2548 ชีวิตไม่เคยทำนาเลย มีหน้าที่แต่เรียนหนังสือกับทำงานที่ตนรับผิดชอบเท่านั้น แต่ชอบชีวิตชาวนามาก ๆ แอบอิจฉาเพื่อนแถวบ้านเสมอ รู้สึกว่าชีวิตเขาช่างอิสระ ไม่มีข้อจำกัดอะไรเลย อยากไปไหน เวลาไหน ทำอะไรก็ได้ตามใจตลอด ก็เลยตั้งใจว่าจะทำนาเองให้ได้ อยากจะเป็นชาวนา รู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ค้นพบความรู้สึกของตนเองแล้วว่า ทำแล้วจะมีความสุขที่สุด ก็เลยซื้อที่ดินใกล้เคียงสะสมเพิ่มอีก 2 งาน ในปี 2549 และในปี 2550 เริ่มปรับที่นา ขุดสระน้ำขนาดเล็ก 1 บ่อ ถมดิน 3 ครั้ง เพราะที่นาต่ำ น้ำท่วมถึงตลอดปีไม่มีแห้ง ลดน้ำไม่ได้ เพราะคนอื่นที่นาติดกันเขาแอบปันน้ำมาใส่นาตลอด หญ้าก็เยอะ ไถ 3 รอบก็ยังไม่ได้ดี เป็นอันว่าปี 2550 ไม่ได้ทำนา ก็ไม่ท้อนะ ปี 2551 เริ่มใหม่ คราวนี้แม่ช่วยเป็นพี่เลี้ยง ได้ข้าวมา 20 ถัง รู้สึกดีใจมาก ปี 2552 เริ่มปรับที่นาอีกครั้ง ถมดิน ทำคูใหม่ ให้กว้างและสูงกว่าเดิมในช่วงหน้าแล้ง พอฝนลงก็เอาไม้ผล พวกมะม่วง ชมพู่ มะยม สะเดา กล้วย มะพร้าวไปปลูก น้ำยังท่วมถึงอีก พอน้ำลดก็เกี่ยวข้าวได้ 38 ถังมากกว่าปีที่แล้ว 18 ถัง ดีใจมาก ต้นไม้ที่ปลูกไว้รอดตายครึ่งหนึ่งของที่ปลูกไว้ ปี 2553 ตั้งใจว่าจะปรับที่นาก่อนปลูกข้าวอีก แล้วก็จะเพิ่มการปลูกไม้ผลซ่อมแซมต้นที่ตาย ก็จะลองเลี้ยงไก่บ้าน และปลูกผักกินเองบ้าง อ๋อลืมเล่าให้ฟังว่า บ่อที่ขุดไว้ ได้ปลาช่อนมาทำกับข้าวหลายตัวเลย ปีนี้จะลองซื้อพันธุ์ปลามาปล่อยเพิ่มด้วย
ที่เล่ามานี้อยากบอกว่า เล็กใช้เวลาว่างจากงานประจำเท่านั้น ตอนเย็นบ้าง เสาร์อาทิตย์บ้าง แรก ๆ ทำไปเพื่อคลายเครียดจากการทำงานประจำ เพราะงานอบต.กับผู้บริหารท้องถิ่นที่วุฒิภาวะไม่ถึงเกณฑ์นี่เป็นอะไรที่บีบอารมณ์ความรู้สึกเหลือเกิน ทุกครั้งที่นายกฯพูดจะอ้างประโยชน์สุขของประชาชนและทำความดีแทนคุณแผ่นดินเสมอ แต่คนทำงานอย่างเราทราบดีว่าเบื้องหลังคำพูดที่เลิศเลอ คือผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง เล็กสำนึกบุญคุณเงินเดือนที่มาจากรายได้แผ่นดิน โดยการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบกฎหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถ แต่ก็เบื่อหน่ายในบางครั้ง และสามารถไปชาร์ตแบตเตอรี่ได้ที่นาทุกครั้ง เริ่มนับถอยหลังแล้วว่าจะทำงานอีก 15 ปี พอได้บำเหน็จดำรงค์ชีพรายเดือน จะลาออกมาเป็นชาวนาเต็มตัวเลย
การทำนา ปลูกต้นไม้ เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ช่วยให้จิตใจดีขึ้นมาก ยกระดับความเป็นคนได้มาก ทุกวันนี้เล็กและสามีจะพาลูกสาว 2 คน ไปนาทุกวันหยุดเสมอ ปลูกฝังความเป็นคนให้ลูกทางอ้อม ลูก ๆ ไม่ดื้อเลย และรู้จักคิดมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ไม่ได้โม้ แต่สังเกตุจากพฤติกรรมและคำพูดของเขาค่ะ
หากท่านผู้อ่านรู้สึกเบื่อหน่ายเวลาทำงาน ลองใช้วิธีนี้ไปคลายเครียดดูบ้าง นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังดีต่อสังคมและประเทศชาติ ที่สำคัญ ได้เข้าใจว่าพ่อของแผ่นดินสอนให้เราเป็นคนได้อย่างลึกซึ้นจริง ๆ ค่ะ /ขอบคุณนะคะ แล้วจะเข้ามาเล่าให้ฟังอีก บ้าย บาย …
จาก เกษตรประณีต ๑ ไร่
.
.
House
2010/04/29 at 10:51 pm
สวัสดีครับคุณgolb
ติดตามอ่านตั้งแต่ยังเป็นมนุษย์เงินเดือนจน ณ เวลานี้เลิกชีวิตแบบนั้นแล้ว ปลีกตัวเองพร้อมคู่ขีวิต มาใช้ชีวิตสงบอยู่ในชนบท หลีกหนีความสับสน วุ่นวายของสังคมเมือง ท่ามกลางสายตา(ของญาติมิตร)ที่เป็นห่วง แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไร ตอนนี้กำลังสร้างบ้าน ปรับพื้นที่ คงต้องออกแรงอีกมาก เพราะผืนดินผ่านการทำเกษตรเคมีมาอย่างโชกโชน พร้อมทั้งปรับวิถีการดำเนินชีวิตของตัวเองให้ช้าลง
คงจะได้เข้ามาแจมในเวปมากขี้น หลังจากทำตัวเป็นผู้อ่าน(อย่างเดียว)เสียนาน
สวัสดีครับ
จาก การเริ่มต้น
.
.
ปล. ขอบคุณทุกความคิดฝันและความพยายามที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียน
.
.